อมตพระกรุ เมืองนครราชสีมา : ประวัติเมืองนครราชสีมา

25 กุมภาพันธ์ 2562 ยอดผู้ชม 375621 ครั้ง

ประวัติเมืองนครราชสีมา

โคราช หรือเมืองนครราชสีมาเป็นดินแดนเมืองเก่า ซึ่งสร้างขึ้นสมัยเมืองขอมเข้ามา เป็นแผ่นดินที่ราบสูงแห่งนี้ โดยมีเมืองเก่าสองเมืองคือ เมืองเสมา และเมืองโคราฆะปุระ (เมืองโบราณทั้งสองแห่งนี้ ปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอสูงเนิน ริมฝั่งลำตะคลองคนละฝาก) จากการสำรวจเมืองโบราณทั้งสองแห่งนี้ของนักโบราณคดี พบว่าเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองอยู่ในสมัยทวาราวดี โดยเฉพาะเมืองเสมา สามารถมองเห็นกำแพงเมืองที่มีลักษณะวงรีหรือรูปไข่ อันเป็นลักษณะของกำแพงเมืองสมัยทวาราวดี เช่น เมืองโบราณ ศรีมโหสถ ที่ อ.ศรีมโหสถ (อ.โคกปีบเดิม) จังหวัดปราจีนบุรี และเมืองโบราณดงละคร จังหวัดนครนายก ซึ่งมีคูกำแพงเมืองค่อนข้างจะกลม ส่วนเมืองโคราฆะปุระ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเสมาราว ๖ กิโลเมตร คนละฝั่งน้ำลำตะคลองใกล้เทือกเขาและป่าดงพญาเย็น อันเป็นป่าดงดิบที่มักมีอันตรายอยู่ทั่วไปทั้งสัตว์ป่าและไข้ป่า ซึ่งฆ่าชีวิตผู้คนที่ย่างกรายเข้าไปในอดีตที่ผ่านมาดังนั้น จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่เมืองเสมาและเมืองโคราฆะปุระร้างไปในที่สุด ต่อมาเกิดชุมชนใหม่ขึ้นที่บ้านดอนห่างจากเมืองโบราณทั้งสองนี้ออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ ๓๒ กิโลเมตร คือเมืองโคราชหรือเมืองนครราชสีมาในปัจจุบัน ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะนำชื่อเมืองโคราฆะปุระและชื่อเมืองเสมา มารวมกัน จนกลายเป็นโคราชหรือนครราชสีมา อย่างไรก็ตาม เมืองนครราชสีมาในปัจจุบันก็มิอาจจะบอกได้ว่าใครเป็นผู้สร้างเพราะยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัด แต่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ชื่อนครราชสีมาก็ปรากฏขึ้นแล้ว เมื่อครั้งสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเมืองนครราชสีมาขึ้นใหม่ให้เป็นเมืองหน้าด่านที่มั่นคง และได้กลายเป็นเมืองใหญ่ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งทางภาคอีสาน นครราชสีมาหรือเมืองโคราช เป็นเมืองหน้าด่านแรกแห่งดินแดนที่ราบสูงหรือประตูเข้าสู่อีสาน ดินแดนอารยธรรมก่อนประวัติศาสตร์ และเป็นเมืองที่มีความใหญ่โตสมกับเมืองเจ้าพระยามหานครในอดีตจริงๆ ดังได้กล่าวมาแล้วว่า นครราชสีมาเป็นเมืองใหม่ที่เกิดขึ้นจากเมืองโบราณสองเมือง ในสมัยทวาราวดี คือเมืองเก่าเสมาและเมืองโคราฆะปุระ กลายมาเป็นเมืองใหม่โคราชในปัจจุบัน เมืองโคราชหรือเมืองนครราชสีมาได้กลายมาเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า เมืองย่าโม ก็เพราะว่าต้นสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเก้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ เกิดเหตุการณ์สำคัญในบ้านเมือง เจ้าอนุวงศ์ เจ้าเมืองเวียงจันทร์ ซึ่งเป็นเมืองประเทศราชของไทย ได้ก่อกบฏยกทัพเข้ามาในภาคอีสาน โดยปลอมสาสน์อ้างว่าจะเข้ามาช่วยรบกับอังกฤษ เมื่อความลับถูกเปิดเผยขณะที่เข้าเมือง นครราชสีมา เมื่อรู้ข่าวว่าทางกรุงเทพฯ ได้ส่งทัพขึ้นมาปราบ เจ้าอนุวงศ์จึงกวาดต้อนเฉลยชาวโคราชกลับไปเวียงจันทร์ด้วย ดังนั้น คุณหญิงโมจึงรวบรวมผู้คนที่ตกเป็นเชลยกระทำการสู้รบกับทหารของเจ้าอนุวงศ์เจ้าเมืองเวียงจันทร์จนทหารเวียงจันทร์แตกผ่ายไปจนหมดสิ้นที่ทุ่งสำริด จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น ทำให้คุณหญิงโมแห่งเมืองโคราชได้กลายเป็นวีรสตรีผู้กล้าหาญและได้รับการยกย่องวีรกรรมอันห้าวหาญเด็ดเดี่ยวเยี่ยงบุรุษเป็นที่ประจักษ์แก่ชาวไทยทั้งมวล พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ จึงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาคุณหญิงโมขึ้นเป็น ท้าวสุรนารี วีรสตรีของชาติจนถึงทุกวันนี้ ศิลปวัตถุของเมืองนครราชสีมา ส่วนใหญ่จะเป็นพระยุคขอมหรือเขมร มีสมัยทวาราวดีบ้าง ด้านพระเครื่องที่เป็นพระกรุนั้นมีน้อย ที่สำคัญและมีชื่อเสียงได้แก่พระกรุวัดสะแก ดังจะได้อธิบายพอเป็นสังเขป
อนุเสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือคุณหญิงโม วีรสตรีของเมืองโคราช
ประตูทางเข้าปราสาทหินพิมาย
พระพุทธรูปหินปางใสยาสน์ที่ใหญ่ที่สุด ที่เมืองเสมา
ปรางค์หินแดงอยู่ในบริเวณปราสาทชั้นในหรือปรางค์ประธานปราสาทหินพิมาย
ปราสาทพนมวัน พุทธสถานอันเก่าแก่ของจังหวัดนครราชสีมา