วันที่ 29 ตุลาคม 2562 ณ ร้านช้างให้-บางคลาน ชั้น3 ชมรมพระเครื่องมรดกไทย ห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่างามวงศ์วาน พลเอก เชวงศักดิ์ ทองสลวย รองนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย พร้อมด้วย พลเรือเอก ปรีชาญ จามเจริญ รองนายกสมาคมฯ , คุณชัยนฤทธิ์ เพชรพันธุ์ทอง อุปนายกสมาคมฯ , คุณสมาน บุญเพ็ญ (สมาน คลองสาม) อุปนายกสมาคมฯ , คุณพิชญ์พิเชษฐ  อังศุนาค  (แขก  รือเสาะ) ประธานกรรมการบริหารสมาคมฯ จ.นราธิวาส , คุณสมบัติ  ไวกิตติพงษ์  (แหลม  สงขลา) ประธานกรรมการบริหารสมาคมฯ จ. สงขลา , คุณเกียรติสกุล ก้อนผา (ยอด สุราษฎร์) และ คุณณศักดิ์ ก้อนผา ( โจ้ สงขลา) คณะกรรมการรับและตัดสินพระหลวงพ่อทวด วัดช้างไห้ ร่วมกันจัดการแถลงข่าว เปิดเผย “แร่ศักดิ์สิทธิ์” ชนวนมวลสารที่ใช้จัดสร้างพระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ปี พ.ศ. 2497 ออกสู่สายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรก ซึ่งมีจำนวนมาก หนักถึง 38 กิโลกรัมโดยประมาณ

     โดย คุณพิชญ์พิเชษฐ  อังศุนาค  (แขก  รือเสาะ) ประธานกรรมการบริหารสมาคมฯ จ.นราธิวาส ผู้ที่ได้รับมอบและเก็บรักษา แร่จำนวนนี้ได้กล่าวถึงความเป็นมาว่า “จากคำบอกกล่าวของคุณตาวิน ผู้ที่อยู่ในยุคสมัยของการสร้างพระหลวงพ่อทวด ปีพ.ศ. 2497 วัดช้างให้ ซึ่งคุณตาวินเป็นชาวบ้าน อาศัยอยู่ใกล้กับวัด มีความใกล้ชิดไปมาหาสู่กับพระอาจารย์ทิมอยู่เสมอ อย่างที่ทราบกันว่า พระอาจารย์ทิมท่านมีจิตสื่อหลวงพ่อทวดได้ เมื่อครั้งการสร้างพระหลวงพ่อทวด ปีพ.ศ. 2497 พระอาจารย์ทิมได้ทำการทรงหลวงพ่อทวด แล้วได้บอกให้คุณตาวินเป็นคนไปหาชนวนมวลสารมา โดยแร่เหล่านี้อยู่ที่น้ำตกทรายขาว หรืออยู่ด้านบนของที่ตั้งวัดทรายขาวในปัจจุบัน”

     “ในครั้งแรกที่คุณตาวินขึ้นไป ท่านไม่รู้ที่ตั้งหรือกรรมวิธีที่จะนำแร่ลงมา แต่ท่านได้พบกับสิ่งมหัศจรรย์ คือมีก้อนหินที่มีแสง เรืองแสงอยู่เต็มทุ่งบริเวณน้ำตก จึงเกิดความตกใจ รีบลงมาบอกพระอาจารย์ทิม จึงได้มีการทรงเป็นครั้งที่สอง หลวงพ่อทวดท่านได้บอกผ่านพระอาจารย์ทิมว่า แร่อยู่ในก้อนหินที่มีแสงนั่นเอง จงทุบก้อนหินแล้วนำแร่ลงมา แต่มีเวลาเพียง 7 วันเท่านั้น หลังจากนั้นเป็นเวลา 6 วันที่คุณตาวินได้ทุบนำแร่จำนวนมากลงมาแล้วมอบให้กับพระอาจารย์ทิม วัดช้างไห้ ซึ่งพระอาจารย์ทิมท่านมีความกลัวว่าแร่ชนวนมวลสารจะหลุดรอดออกมาอย่างไรก็ตามแต่ จึงได้ให้คุณตาวินเป็นผู้ดูแลรักษาแร่จำนวนนี้มาโดยตลอด”

     “จากคำบอกเล่าของคุณตาวิน เล่าว่าเมื่อปีพ.ศ. 2497 ได้ใช้แร่ไปเพียง 2 กำปั้น (2 ก้อน มีขนาดเท่ากำปั้นมือ) ซึ่งสอดคล้องกับที่ ส่วนใหญ่เราจะพบแร่เพียง 2 วรรณะ เท่านั้น ในอยู่ในพระหลวงพ่อทวด ปีพ.ศ. 2797 ที่ทำการบดแล้วใส่ไว้ในด้านหลังของพระ

     คุณแขก รือเสาะ กล่าวต่อ “เมื่อก่อน แร่ พระหลวงพ่อทวด ปีพ.ศ. 2497 เป็นปริศนาสำหรับวงการพระ ในสายพระหลวงพ่อทวด ว่าแร่ดังกล่าวนี้คือแร่ชนิดใดกันแน่ แต่ตั้งแต่ได้เจอกับคุณตาวินคนนี้ แล้วเราได้แร่ชุดนี้มา จำนวน 38 กิโลกรัม โดยประมาณ คราวที่เมื่อผมได้แร่ชนิดนี้มา ผมได้ทำการส่องด้วยตาของผมเอง เพราะผมเก็บสะสมพระหลวงพ่อทวดอยู่แล้ว และได้นำแร่ชุดนี้มาให้ คุณชัยนฤทธิ์ เพชรพันธุ์ทอง ได้ดู เพราะท่านเป็นอุปนายกสมาคมฯและเป็นสายตรงพระหลวงพ่อทวดที่ทุกคนเชื่อถือมากที่สุด ตอนแรกคุณชัยนฤทธิ์ ถามว่าจะมีจริงหรือ แต่พอส่องก็ตกใจเพราะเป็นแร่ตัวเดียวกับ พระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ปี 2497 จริงๆ”

     “และในวาระครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นนิมิตหมายอันดี ที่ทางด้าน พลเอก เชวงศักดิ์ ทองสลวย รองนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย พร้อมด้วย พลเรือเอก ปรีชาญ จามเจริญ รองนายกสมาคมฯ , คุณชัยนฤทธิ์ เพชรพันธุ์ทอง อุปนายกสมาคมฯ ได้รับความไว้วางใจให้จัดสร้าง พระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ เพื่อเป็นรางวัลในการจัดมหกรรมการประกวดพระทั่วประเทศ โดย คณะนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 29 โดย ท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุด ทางทีมงานจึงมติกันว่า จะทำพระหลวงพ่อทวด ย้อนยุค ปีพ.ศ.2497 โดยฝังแร่หลวงพ่อทวด ปี2497 นี้ ลงที่หลังพระให้เป็นประดุจเดียวกับหลวงพ่อทวดรุ่นแรก ปีพ.ศ. 2497 แต่จะเพิ่มโค๊ด ฝังไว้ด้านหลัง เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดหรือสับสน ถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดีครับ เพราะเราได้รู้ถึงที่มาที่ไปของแร่ชุดนี้แล้ว และตั้งแต่ปีพ.ศ. 2497 จนปัจจุบันนี้ 60 กว่าปี ไม่เคยมีใครสร้างหลวงพ่อทวดเนื้อว่านแล้วฝังแร่หลวงพ่อทวด ปีพ.ศ.2497 เลย วาระนี้ถือว่าเป็นครั้งแรก ที่เราจะย้อนยุครุ่นแรกกันแบบของจริง อย่างไรก็ฝากทุกคนไว้ด้วยครับ”

     ในส่วนของพิธีพุทธาภิเษก คุณแขก รือเสาะ กล่าวว่า “ตั้งใจจะทำพิธีวาระแรกกันที่วัดห้วยเงาะ จ.ปัตตานี มูลเหตุที่เลือกวัดห้วยเงาะเพราะ พ่อท่านเขียว ท่านเป็นพระคณาจารย์ที่อยู่ในเหตุการณ์การจัดสร้างและเป็นผู้ผสมว่านที่ใช้ทำพระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ปีพ.ศ.2497 ที่ชัดเจนที่สุด คนในพื้นที่มีความเชื่อว่าท่านสามารถสื่อถึงหลวงพ่อทวดได้ และอีกหนึ่งไม้เด็ดที่เราอาจจะไม่ได้นำมาให้ชมกันในวันนี้ คือ “ว่าน” เดิมที่ใช้ทำพระหลวงพ่อทวด ปีพ.ศ. 2497  ในส่วนที่เหลือ จำนวน1ถัง (200 ลิตร) เลย พ่อท่านเขียวท่านเก็บรักษาไว้ตั้งแต่สมัยยังอยู่วัดนางโอ ตอนนี้ได้นำมาเก็บรักษาต่อที่วัดหัวเงาะ ซึ่งว่านดังกล่าวนี้จะนำมาเป็นมวลสารในการจัดสร้างพระรุ่นนี้ด้วย”

     พลเรือเอก ปรีชาญ จามเจริญ รองนายกสมาคมฯ ได้กล่าวให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “ พิธีพุทธาภิเษกพระหลวงพ่อทวดรุ่นนี้จะมีด้วย 2 โอกาส 2 วาระ โอกาสแรก คือ นำไปเป็นของรางวัลในการจัดมหกรรมการประกวดพระทั่วประเทศ โดย คณะนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 29 ในวันที่ 15 มีนาคม 2563 ซึ่งจะทำพิธีพุทธาภิเษก ในวาระแรก วาระเดียว โดยพ่อท่านเขียว และ พระเกจิคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิในภาคใต้”

    “ และ โอกาสที่สอง ด้วยท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้ดูแลทหารทุกหมู่เหล่า ทั้งทัพบก ทัพเรือ ทัพอากาศ จึงมีความประสงค์จะแจกพระหลวงพ่อทวดรุ่นนี้ไว้ให้ได้บูชา ซึ่งประจวบเหมาะกับ ในปี 2563 มีวันเสาร์ 5 ใหญ่ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 (วันที่ 28 มีนาคม 2563) จึงมีการวางแพลนจะนำพระหลวงพ่อทวดในส่วนนี้เข้าพิธีพุทธาภิเษก อีกครั้งเป็นวาระที่2 ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งสอดคล้องกับที่คุณชัยนฤทธิ์ เพชรพันธุ์ทอง และ พลเอก เชวงศักดิ์ ทองสลวย ได้ให้ข้อมูลตรงกันว่า หลวงพ่อทวด ท่านอยู่ในสมัยของสมเด็จพระเอกาทศรถ นั่นคือสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยพิธีพุทธาภิเษกวาระที่2 จะมีขึ้นในวันเสาร์ 5 ใหญ่ ของ ปี 2563 นี้ อาจจะจัดขึ้นที่วัดใหญ่ชัยมงคล , วัดพิชัย หรือ วัดหน้าพระเมรุ ซึ่งเป็นวัดเดียวที่พม่าไม่สามารถเผาได้ ทางด้านคุณชัยฤทธิ์ เพชรพันธุ์ทอง และ พลเอกเชวงศักดิ์ สลวย ได้วางกรอบไว้เพื่อให้สอดคล้องกัน ในโอกาสที่จะมอบพระหลวงพ่อทวด ให้กับเหล่าทหารหาญและประชาชนทั่วไป”

     คุณแขก รือเสาะ กล่าวปิดท้ายว่า “ปีหน้าจะมีวันเสาร์ 5 ใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นวันที่แข็งมากในการปลุกเสกวัตถุมงคล คือวันที่ 28 มีนาคม 2563 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 อีกทั้งพ่อท่านเขียว ท่านดังวิชารับทรัพย์ ส่วนวันเสาร์5 ถือเป็นฤกษ์ดี จากนิมิตหมาย เราก็ได้ชื่อรุ่นว่า  “รับทรัพย์เสาร์ 5 หรือ เสาร์5 รับทรัพย์”

    ตามข้อมูลในการแถลงข่าวในครั้งนี้ เบื้องต้น ในงานมหกรรมการประกวดการอนุรักษ์พระบูชา พระเครื่องและเหรียญคณาจารย์ทั่วประเทศ โดย คณะนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 29 โดยจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม 2563 ณ อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคารบี) ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ

     รางวัลชนะเลิศแต่ล่ะรายการ รางวัลที่ 1 จะได้รับหนังสือรวบรวมพระหลวงพ่อทวด วัดช้างไห้ เนื้อโลหะ จัดทำโดย คุณชัยนฤทธิ์ เพชรพันธุ์ทอง จำนวน 1 เล่ม พร้อม พระหลวงพ่อทวด ที่จัดสร้างในวาระนี้  เนื้อพิเศษ จำนวน 1 องค์ , รางวัลที่ 2 , 3 , 4 จะได้รับพระหลวงพ่อทวด ที่จัดสร้างในวาระนี้ ในพิมพ์ที่ต่างกันไป อยู่ในขั้นตอนของการสรุปจัดสร้าง แต่ที่พิเศษกว่านั้น ถือได้ว่าเป็นนิมิตหมายใหม่ของวงการพระ คือ ทุกท่านที่ส่งพระเข้าประกวดในงานนี้ จะได้รับพระหลวงพ่อทวด ที่จัดสร้างในวาระนี้ จำนวน 1 องค์ ซึ่ง “แร่และว่าน” ของปีพ.ศ. 2497 ที่นำมาเป็นชนวนมวลสารในการจัดสร้างพระหลวงพ่อทวดย้อนยุค รุ่นนี้ ถือว่าสุดยอดที่สุดแล้ว